ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ
วิธีการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ
ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ มีรายละเอียดที่ควรสนใจ ได้แก่
คอมเพรสเซอร์ ให้ตรวจดูว่าเป็นคอมเพรสเซอร์ใหม่ รวมทั้งมีการติดตั้งโอเวอร์โหลด (Overload) ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับตัดกาทำงานของคอมเพรสเซอร์ในกรณีที่กระแสไฟฟ้าตก หรือสูงกว่าปกติ และแอนตี้รีไซเคิล (Anti-recycle) ซึ่งเป็นอุปกรณ์หน่วงเวลา เพื่อป้องกันการปิด-เปิดเครื่องติดต่อกัน ในกรณีที่ไฟกระพริบหรือไฟตก
เปรียบเทียบการใช้ไฟของเครื่องปรับอากาศ
COP: Coefficient of Performance (สมรรถนะของระบบทำความเย็น) ค่าตัวเลขยิ่งมากยิ่งดี
EER: Energy Efficiency Ratio (อัตราส่วนประสิทธิภาพการใช้พลังงาน) ค่าตัวเลขยิ่งมากยิ่งดี
ตรวจดูความแข็งแรงทั่วไปของเครื่อง ถ้าตัวถังเป็นเหล็กจะต้องหนา และไม่เป็นรอยขีดข่วนง่าย คอยล์และครีบอลูมิเนียม จะต้องใหม่ไม่มีฝุ่นจับและครีบอลูมิเนียมควรถี่และตั้งตรง (ครีบไม่ล้ม)
มอเตอร์แฟนคอยล์ยูนิต (ชุดที่อยู่ในห้อง) และคอนเดนซิ่งยูนิต (ชุดที่อยู่นอกห้อง) ต้องเป็นของใหม่ โดยสังเกตจากมอเตอร์ใหม่ต้องไม่มีฝุ่นเกาะขดลวดภายใน

เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีแผ่นแสดง (Name Plate) ที่มาของแหล่งผลิตและคุณสมบัติ ข้อมูลทางเทคนิคที่จำเป็นของเครื่องนั้นๆ เช่น กำลังไฟฟ้าสมรรถนะการทำความเย็นอัตราส่วน ฉลากแสดงประสิทธิภาพพลังงานของเครื่องปรับอากาศ เบอร์ 5 เป็นต้น
ข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับท่านที่กำลังตัดสินใจซื้อเครื่องปรับอากาศ
- ควรเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศจากผู้ผลิตและผู้จำหน่ายที่เชื่อถือได้ เพราะแอร์โนเนมส่วนใหญ่จะมีกำลังความเย็น (BTU) น้อยกว่าที่แสดงไว้บนฉลาก หรือที่ภาษาช่างแอร์เรียกว่า ไม่เต็มบีทียู เครื่องปรับอากาศจาก
ผู้ผลิตโนเนมส่วนใหญ่มีกำลังความเย็นเพียง 70 – 80% ของที่โฆษณาไว้นอกจากจะมีกำลังความเย็นไม่เต็มบีทียูแล้ว –แอร์โนเนมยังมีเสียงดังแล้วยังเสียเร็วด้วย
- ควรเลือกใช้เครื่องปรับอากาศที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือเบอร์ 4 และได้มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) เพราะได้รับการทดสอบความสามารถในการทำความเย็นแล้ว ซึ่งทำให้ท่านแน่ใจได้ว่า จะได้เครื่องปรับอากาศที่
ประหยัดไฟฟ้า และมีประสิทธิภาพเต็มบีทียู นอกจากนี้ ควรพิจารณาประกอบกับผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือด้วย เนื่องจากว่าอาจมีผู้ผลิตบางรายปลอมฉลากเบอร์ 5 ด้วย
- เลือกใช้เครื่องปรับอากาศของผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่าย ที่มีบริการหลังการขายที่ดี ข้อนี้ เป็นข้อที่มีความสำคัญมากเช่นกัน ผู้ให้บริการนั้นต้องมีความชำนาญ ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้ เพราะนั่นหมายถึงผู้ที่จะดูแลเครื่องปรับ
อากาศของคุณ จะได้ไม่ต้องมาหงุดหงิดกับปัญหาจุกจิกกวนใจภายหลัง
ข้อพิจารณาในการใช้งานเครื่องปรับอากาศ
- ปรับตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสมต่อการใช้งาน ประมาณ 25 องศาเซลเซียส
- ปิดเครื่องปรับอากาศทุกครั้ง เมื่อเลิกใช้ หรือไม่ใช้งานเกินกว่า 1 ชั่วโมง
- อย่านำสิ่งของไปวางกีดขวางทางลมเข้า/ออกของคอนเดนซิ่งยูนิต
- หลีกเลี่ยงการนำอุปกรณ์ที่มีความร้อน เช่น เตารีด เตาไฟฟ้า เข้ามาใช้ภายในห้องที่มีการปรับอากาศ
- ควรปิดประตู หน้าต่างให้สนิท ขณะใช้งานเครื่องปรับอากาศ
- ไม่ควรปลูกต้นไม้ หรือตากผ้าในห้องที่มีการปรับอากาศ
|